เรื่องย่อ John Wick 4

หัวข้อที่สำคัญ

John Wick 4 ปล่อยตัวอย่างใหม่ คีอานู รีฟส์ ปะฉะดะ ดอนนี เยน พร้อมการปรากฏตัวสุดเข้มของ บิลล์ สการ์สการ์ด และ ฮิโรยูกิ ซานาดะ แฟนชาวไทยเตรียมตั้งรับห่ากระสุน ลั่นความมันเหนือชั้นครั้งใหม่ มีนาคม 2023 ในโรงภาพยนตร์

เมื่อพวกนายต้องการให้เขากลับมา เขาจึงกลับมาฆ่าอีกครั้ง !

  • John Wick : Chapter 4
  • ชื่อไทย : จอห์น วิค แรงกว่านรก 4
  • ประเภท : ภาพยนตร์
  • แนว : แอคชั่น / ระทึกขวัญ
  • ผู้กำกับ : แชด สตาเฮลสกี้
  • แสดงนำ : คีอานู รีฟส์
  • ผู้ผลิต : Lionsgate
  • ฉาย : 24 มีนาคม 2023

เตรียมกลับมาเสิร์ฟความคลั่งสาดคลังกระสุนอีกครั้งสำหรับภาพยนตร์นักฆ่าแฟรนไชส์อันดับหนึ่ง John Wick: Chapter 4 ผลงานแอ็คชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามทั้งด้านความบันเทิง รายได้ และคะแนนวิจารณ์มาแล้วทุกภาค และล่าสุด John Wick ก็กลับมาสร้างเสียงฮือฮาให้สมกับที่แฟน ๆ ทั้งโลกรอคอย

โดยในตัวอย่างล่าสุดของ John Wick Chapter 4 พาผู้ชมไปสู่จักรวาลนักฆ่าที่ถูกขยายขอบเขตยิ่งกว่าเดิม หลักจากที่ จอห์น วิค (คีอานู รีฟส์) เอาตัวรอดจากนักฆ่าและการตามล่าจากสภาสูงมาได้ เขาได้ค้นพบว่าหนทางรอดเดียวที่จะทำให้ชีวิตเขาเป็นอิสระ คือการต้องกลับมาเผชิญหน้ากับชะตากรรมที่รอเขาอยู่และเป้าหมายเดียวคือต้องโค่นสภาสูงให้สำเร็จ โดยครั้งนี้เขาต้องรับมือกับศัตรูอำมหิตรายใหม่ที่มีอิทธิพลกว้างขวางไปทั่ววงศ์วานนักฆ่าทั้งโลก ผู้พร้อมจะเปลี่ยนมิตรให้กลายเป็นศัตรู เปลี่ยนลมหายใจให้กลายเป็นร่างไร้วิญญาณ เปิดฉากการตามล่าครั้งใหม่ที่กินอาณาเขตแค้นไปถึง 3 ทวีป ทั้งในนิวยอร์ก ปารีส เบอร์ลิน และโอซาก้า

“ภาคนี้มันจะเต็มไปด้วยความแปลกใหม่ทั้งตัวละครและเรื่องราว แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมคือความวินาศสันตะโรอบ ๆ ตัว สำหรับในภาคนี้เราจะขยายจักรวาล จอห์น วิค ให้กว้างขึ้น เพราะสามภาคแรกที่แล้วเรื่องราวส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่นิวยอร์ก แต่ครั้งนี้เราจะบุกไปทั้งญี่ปุ่น, เยอรมนี, จอร์แดน, ฝรั่งเศส และอเมริกา” รีฟส์เล่าถึงการกลับมาของ John Wick: Chapter 4 ในงานคอมิกคอนครั้งล่าสุดที่ผ่านมา

ใน John Wick Chapter 4 นอกจากจะได้ทีมนักแสดงคุณภาพชุดเดิม อย่าง คีอานู รีฟส์, ลอว์เรนซ์ ฟิชเบิร์น และ เอียน แม็คเชน กลับมาสานต่อเรื่องราวสุดเข้มข้นแล้ว ยังระดมทีมนักแสดงแอ็กชันสตาร์ชุดใหม่มาบันดาลความมันส์ขีดสุดให้กับจักรวาลนักฆ่าครั้งนี้ นำโดย ดอนนี่ เยน จาก ยิปมัน, บิล ซาร์สการ์ด จาก IT ร่วมด้วย ฮิโรยูกิ ซานาดะ จาก Bullet Train

เตรียมตัวให้ดีเพราะเมื่ออยากให้เขากลับมา ครั้งนี้เขาจึงกลับมาฆ่ามากขึ้นกว่าเดิม พร้อมลั่นกระสุนคลั่งสาดความมันเหนือชั้น ครั้งนี้มันจะเป็น จุดจบ หรือ จุดเปลี่ยน ของชะตานักฆ่าอันดับหนึ่งอย่าง จอห์น วิค ถึงเวลานับถอยหลังสู่วันชี้ชะตาพร้อมกัน กับ John Wick Chapter 4 ฉาย 23 มีนาคม 2023 ในโรงภาพยนตร์

9 เหตุผลที่คุณต้องไปดู John Wick 4 ในโรงเท่านั้น

  1. John Wick 4 แอ็กชันจัดหนักจัดเต็ม กับความยาว 169 นาที แบบเต็มอิ่ม เมากระสุนกันไปข้าง จัดเต็มฉากแอ็กชันมากกว่าภาคที่แล้วถึง 4 เท่า!
  2. John Wick: Chapter 4 เป็นภาคที่ยกระดับภาพยนตร์แอ็กชันแห่งทศวรรษจนถูกยกระดับว่าเป็นอีกขั้นของหนังแอ็กชัน การันตีความเดือดจากปากของคีอานู รีฟส์ว่า “เราไม่เคยทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน”
  3. เป็นภาคที่รวมตัวที่สุดแห่งทุกอย่าง ฉากแอ็กชันมากและยากที่สุด, การรวมตัวที่สุดของแอ็กชันสตาร์จากทั่วมุมโลก, งานสร้างที่ถูกเนรมิตมาอย่างยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยสร้างมา และ คุ้มค่าตั๋วทุกนาทีกับความยาวมากที่สุด พิสูจน์ความโหดกับ 3 ฉากแอ็กชันหยุดโลก ตอกย้ำว่านี่คือภาคที่ดีที่สุดของจักรวาลจอห์น วิค (ฉากดริฟต์รถโคตรคลั่ง /กระบองสองท่อนโคตรพีก/ ฉากไนต์คลับโคตรเดือด)
  4. ซีนแอ็กชันโคตรเดือดประจำภาค! กับฉาก Car Fu ซีนดริฟท์รถที่คีอานูทุ่มเทฝึกดริฟท์รถด้วยตนเองถึง 9 เดือนเพื่อซีนนี้ซีนเดียว จัดเต็มความมันส์อัดแน่นบนจอยักษ์เท่านั้น
  5. โลกต้องจับตาดู! การปะทะกันระหว่าง คีอานู รีฟส์ ท็อปสตาร์ตลอดกาลของโลกตะวันตก และ ดอนนี่ เยน ราชาวงการแอ็กชันแห่งโลกตะวันออก สงครามเดือดระหว่างอดีต 2 เพื่อนรัก ที่ต้องมาห้ำหั่นกันในภาคนี้ บทสรุปของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตาม
  6. รีวิวโคตรเดือด! กวาดคะแนนบนเว็บไซต์ Rotten Tomatoes ไปอย่างท่วมท้นกว่า 92% นับเป็นหนังแอ็กชันที่คะแนนสูงสุดแห่งปี และเสียงวิจารณ์พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “นี่คือ John Wick ภาคที่ดีสุด” รอพิสูจน์ได้ด้วยตาตัวเองบนจอยักษ์ในโรงเท่านั้น
  7. คนรักหมาห้ามพลาด อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญประจำจักรวาล John Wick คือน้องหมาที่จะเข้ามามีบทบาทในแต่ละภาค รอติดตามความเท่และฉากแอ็กชันสุดเซอร์ไพรส์ที่มันส์ไม่แพ้ จอห์น วิค พร้อมกันในโรงได้เลย8. เนรมิตฉากสุดอลังการงานสร้าง ลงทุนถ่ายทำข้ามทวีปถึง 5 ประเทศ (ปารีส, โอซาก้า, เบอร์ลิน, นิวยอร์ก, จอร์แดน)
  8. รอติดตามฉาก “มุมมองพระเจ้า(God’s Eyes View)” ที่คีอานู รีฟส์ พูดออกมาเองว่า “นี่คือฉากที่เขากดดันที่สุดขณะถ่ายทำ”
  9. ทวีความมันส์ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลนักฆ่า ร่วมระเบิดความมันส์บนจอยักษ์ระบบพิเศษ ทั้ง IMAX, 4DX และ MX4D สัมผัสประสบการณ์ความมันส์แบบ Non stop ในวีคแรก วีคเดียวเท่านั้น! (IMAX, 4DX และ MX4D เริ่มฉายรอบ 19.00 น. วันที่ 22-29 มีนาคม)

เรียกว่าเป็นกระแสฮือฮาเลยก็ว่าได้ กับหนังแอคชั่นพล๊อตง่ายๆ แต่ดูเนี้ยบ มีสไตล์เฉพาะตัวอย่าง John Wick ที่เปิดฉากโลกของนักฆ่าสุดเซอร์เรียลด้วยความตายของหมาพันธุ์บีเกิ้ลแสนรักของสุดยอดนักฆ่าของ “โจนาธาน วิค” (คีอานู รีฟส์) นำไปสู่การล้างบางมาเฟียรายใหญ่ เปิดโปงโลกอาชญกรรมที่กฏหมายต้องศิโรราบ และปลายทางคือความ “เจ็บจี๊ด” ที่เตรียมไปสู่สงครามโลกใต้ดิน…และยังเป็นบทที่ทำให้ “คีอานู รีฟส์” ดาราดังที่กำลังจมดิ่งกับความทุกข์จากปัญหาชีวิต ได้กลับมาโลดแล่นบนจอหนังใหญ่อีกครั้ง

รีวิว โคตรมันส์ /10

เป็นหนังที่ดูแล้วเหนื่อยแทนนักแสดงเลย เป็นหนังที่คิดไว้แล้วว่า มันต้องออกมาสุดยอด โดนใจ และย่อยง่ายเข้าใจง่าย ระดับ “ถอดสมองดู” และก็ไม่ผิดหวัง เมื่อ แชด สตาเฮลสกี้ ได้กำกับภาคที่ 4 ออกมาได้สมราคาคุยไว้ว่า จะเดือดสุดในชีวิต…ซึ่งตัวหนังได้พิสูจน์คำกล่าวนี้ว่า ไม่เกินจริง

ตัวหนังพกพาความยาวเกือบ 3 ชั่วโมง พร้อมกับซีนมากมายที่คุณต้อง “อิหยังหวะ”…“ได้เหรอวะ” … หรือแบบ “เ-ี้ยไรวะแ-่ง” เลย เพราะหลายๆคิวบู๊ออกแบบชวนให้นึกถึงหนังแอคชั่น Martial Art สไตล์เฉินหลงมากๆ + จอนห์ วิค ไตรภาคที่มีการใช้ปืน (End Creditระบุว่า หัวหน้าทีมสตั๊นท์เป็นชาวญี่ปุ่น) จนเกิดส่วนผสมที่ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แถมยังดูรู้เลยว่า “รอคิว” แน่ๆไม่ต่อยโบ๊ะบ๊ะเท่าไหร่ แต่เมื่อหนังมันผ่านจุดคิวบู๊ที่มีจุดสะดุด งึกๆงักๆในช่วงแรกๆมาได้ ตัวหนังก็สาดความสนุกเต็มข้อ และคิวสตั๊นท์ เหมือนจะไหลลื่นขึ้นเฉยเลย (ต้องเข้าใจว่า หนังเรื่องนี้ ทีมงานถ่ายทำมีหลายยูนิตย่อย ชนิดถ่ายหลายทีมเยอะมากๆ ทำให้เซตติ้งต่างๆ การใช้ทีมงานคิวบู๊ อาร์ตไดฯ หรือแม้แต่ผกก.ภาพ ก็ยังต้องแยกกัน อาจจะมีเรื่องของการประสานงานของแต่ละฝ่ายที่คลาดเคลื่อนไปบ้าง จุดนี้พอเข้าใจได้)

คาแรคเตอร์ดีไซน์ สำหรับตัวละครใหม่ที่ปรากฎในเรื่อง ถือว่าทำออกมาได้น่าจดจำ โดยเฉพาะตัวละคร “เคน” ที่แสดงโดย “เจินจื่อตัน” (aka ดอนนี่ เยน ) ทำออกมาได้ดีชนิดที่คุณต้องจดจำ บทบาท ความขโมยซีน และความฮาในการแสดงออกของแอคติ้งตัวละคร “ตาบอด” ที่ปั่นจัดๆตัวตึง ทำให้ตัวละครนี้เป็น “ตัวร้ายที่คุณเกลียดไม่ลง” เผลอๆคุณจะรัก “ไอ้บอดสอดรู้มาก” ที่เขาถ่ายทอดออกมาอีกด้วย ไม่ใช่ตัวละครโง่ๆประดับฉากไปวันๆให้รู้ว่ามีคนเอเชียเล่น แต่ตัวละครนี้ คือคีย์สำคัญของเรื่องที่ต้องมีจริงๆ…สมกับที่เป็นตัวละครที่ “จอห์น วิค นับพี่นับน้อง” กันเลย

ในขณะที่ ฮิโรยูกิ (ชิเหน๋) ซานาดะ นักแสดงชาวญี่ปุ่น ยังคงคอนเซปต์ พูดน้อย แต่น่า “จ ด จ ำ . . . ” เหมือนเดิม ถึงจะเป็นหนังบู๊แอคชั่นถอดสมองดู แต่เรื่องฝีมือการแสดง ทุกคนในเรื่องคือเอาอยู่ และครีเอทตัวละครในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยการเล่นกับภาษาที่พูดไม่เหมือนกัน แต่คนในเรื่องดันเข้าใจได้ ก็เป็นความฮาอีกหนึ่งอย่างที่เบรกอารมณ์หนังที่ดุเดือดให้เบาลง…

ในส่วนงานภาพ หายห่วงได้เลย ในเรื่องนี้ คุณสามารถแคปหน้าจอ ทำวอลเปเปอร์สวยๆได้แทบทุกซีน ทุกโลเคชั่น แอดมินที่นั่งดูถึงกับบ่นเลยว่า “ทีมงานขยันปั้นซีนเนอะ” คือองค์ประกอบภาพ บาลานซ์ สีสันต่างๆ ทำออกมาสวยงาม ดูลงทุนเยอะ เมื่อเทียบกับภาคแรกชนิดคนละเรื่อง และสมกับการที่หนังเล่นสเกลใหญ่จริงๆ..

 

โดยเฉพาะ “ลองเทค” (ถ่ายแบบยิงยาวไม่มีซีนอื่นมาแทรก) ในเรื่อง ที่กินเวลาเกือบ 2 นาที ที่เหมือนคุณกำลังเล่นเกม Hotline Miami หรือพวก Gun Echoes ในมือถือเลย ทีมงานเลือกใช้ “มุมมองพระเจ้า(God’s Eyes View)” แล้วตัด Transition แบบเนียนๆด้วยประกายไฟจาก “ลูกซอง Dragonbreath” พร้อมถม Object ต่างๆด้วย CG แล้วทำออกมาได้หวือหวา สวยงาม และมีชั้นเชิงมากๆ เพื่อนแอดมินที่เป็นสายถ่ายภาพ ชมซีนนี้มาก เพราะโคตรครีเอทจริงๆ…

**จุดสังเกตุ**

ถ้าทีมงานชุดนิวยอร์คเข้ามาถ่ายทำ โทนหนังจะติดความฟิล์มนัวร์

ถ้าเป็นยูนิตโตเกียว ทีมถ่ายทำก็จะเล่นกับหลอดนีออน แสงเส้นๆสีแจ๋นๆหน่อย หรือถ้าเป็นทีมงานฝรั่งเศส ก็จะเน้นความมืดตัดกับไฟสีเหลืองยามราตรี ก่อนรุ่งสางโทนส้ม และเน้นไปที่ CG เป็นหลัก

ถ้าคุณไล่ดู End credit จะเห็นเลยว่า หนังเรื่องนี้ ใช้ทีมงานซอยยิบย่อยออกเป็นสิบๆทีม เพื่อให้เกิด Visual ธีมของงานภาพที่ต่างกันอย่างชัดเจน และทำให้หนังมีมีติในแง่ของการถ่ายทอดอารมณ์ของเรื่องราว ณ เวลานั้นๆ…

จุดที่ให้ติจริงๆ คือ เนื้อเรื่อง ที่น่าเสียดายว่า ยังใช้ “สภาสูง” ไม่ค่อยคุ้มอย่างที่โปรโมท (เหยียบสภาสูง / ถล่มสภาสูง บลาๆๆๆ)

เพราะสุดท้าย ตัวหนังไม่ได้เป็นการต่อสู้กับองค์กรใหญ่ แต่ยังเน้นการต่อสู้กับบุคคลที่ “กุมอำนาจในเวลานั้นๆ” มากกว่า ซึ่งหนังก็จะเดินตามสูตรของภาค 2-3 ซึ่งเอาจริงๆ หน้าหนังดูสเกลใหญ่ แต่ถ้าพิจารณาเนื้อเรื่อง เราจะแยกออกเป็น 3 พาร์ทใหญ่ๆ ได้แก่ ช่วงต้น / กลาง /จบ จะพบว่า หนังสเกลเท่าเดิม เพิ่มเติมคือโลเคชั่น และเนื้อหาเสริม เพื่อปูไปยังตอนจบ ช่วงต้น ที่เป็นการเกริ่นนำ จุดนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร แต่ที่รู้สึกว่าใส่มาแล้วยืดๆจนเหนื่อยเลยก็…พาร์ทที่ 2 ที่พระเอกของเราต้องไปทำภารกิจเสริม เพื่อผ่านเงื่อนไขไปยังช่วงท้ายเรื่อง จุดนี้ ยอมรับว่า ถ้าไม่มีฉากแอคชั่นมันส์ๆ กับมุก Bad Joke ที่ ดอนนี่ เยน นำเสนอ (พวกมุกคนตาบอดยิงปืน เล่นไพ่ ทำอะไรโม้ๆซุยๆ) ก็รู้สึกว่ายืดยาดไปนิด แต่ช่วงท้ายเรื่อง คือ “บทสรุปเรื่องราวที่แท้จริง” และ “สมเหตุ สมผลในระดับที่ยอมรับได้” ขึ้นมาซะงั้น…

โดยรวม เป็น 3 ชั่วโมง ที่มันส์ บ้าบอ ฮากับแอคชั่นหน้าตายของดอนนี่ เยน และหลายๆองค์ประกอบ พร้อมซีนที่คุณต้องจำ โดยเฉพาะที่ “ปารีส” เป็น40กว่านาทีที่ดุเดือดจัดๆ ถึงขั้นว่า “ปวดฉี่จะแย่ แต่ก็ไม่อยากพลาด” ยังไงยังงั้น… สรุป ไปดูเถอะ จะหาว่าอวยก็ได้ แต่เชื่อเหอะ นานๆจะมีหนังบู๊บ้าพลัง ที่ไม่สนเนื้อหาอะไรมาให้ดูกันบ่อยๆ ก่อนไปดูเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย หนังไม่มีพักเบรก อ่อ หนังจบ อย่าเพิ่งลุก มี End Credit … “มีบุญคุณต้องทดแทน มีแค้นต้องชำระ” John Wick

บทความที่น่าสนใจ